LOVE U ; #BinGuk
LOVE U
Hyunbin x Yongguk
Rate : NC ( 18+ )
แต่ก็น่าอึดอัดเป็นบ้าเลยแฮะ
ไม่เห็นจะทำให้น่ารู้สึกดีตรงไหน
เขานั่งมองเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในมือของตัวเองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ในหัวก็เอาแต่คิดว่าหมดแก้วนี้แล้วออกไปหาซื้อเบียร์กระป๋องมาดื่มน่าจะผ่อนคลายมากกว่าหรือเปล่านะ
นั่นล่ะ ดูเหมือนว่าผับหรือสถานบันเทิงจะไม่ใช่ทางของ CEO อย่างคิมยงกุกเสียจริงๆ
คิมยงกุกพับแขนเสื้อของตัวเองทั้งสองข้างขึ้นมาถึงศอกก่อนจะปลดกระดุมที่เสื้ออีกหนึ่งเม็ดเพื่อให้ดูผ่อนคลายขึ้น
ตัดสินใจกระดกแก้วและรินเหล้าเข้าปากตัวเองจนหมด รสชาติขมแผ่ซานไปทั่วโพรงปากเริ่มทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง
มือเรียววางแก้วเปล่าสีใสลงบนโต๊ะ
ความขมเฝื่อนของมันดูเหมือนจะยังไม่จางหายไปง่ายๆจนใบหน้าของ CEO
หนุ่มรูปหล่อเหยเกไปหมด
“บอส?” เสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำเอาคนที่เพิ่งกระดกเหล้าจนหมดแก้วไปสะดุ้งตัวโยน
ยงกุกรีบหันไปมองตามเสียงเรียก ก็พบกลับชายหนุ่มที่ใบหน้าคุ้นตาอยู่ไม่น้อย ไม่สิ คุ้นมากเลยต่างหาก
“คุณควอน..?” เนื่องจากแสงที่เหมือนจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย
น้ำเสียงของคิมยงกุกจึงออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจเสียเท่าไหร่นัก
“ครับ ผมเอง
นั่งด้วยได้ไหม” ทั้งๆที่ตอนแรกคิมยงกุกตั้งใจมานั่งดื่มคนเดียวเสียแท้ๆ
แต่พอได้ยินประโยคคำถามแบบนั้นจากอีกฝ่าย เขาก็เผลอพยักหน้าโดยอัตโนมัติ
อาจจะเพราะตอนนี้เขาเริ่มมึนหัวแล้วล่ะมั้ง ถึงทำให้สติอยู่ไม่ค่อยครบถ้วนเสียเท่าไหร่
“เชิญครับ”
“ขอบคุณครับ”
กล่าวพร้อมนั่งลงที่พื้นที่ข้างๆ “บอสมาคนเดียวเหรอครับ”
“ครับ
แค่อยากมานั่งดื่มน่ะ เครียดๆกับงาน แล้วคุณควอนล่ะ”
“จริงๆนัดเพื่อนไว้
แต่แฟนมันไม่ให้ออกมาน่ะครับ ก็เลยกลายเป็นมาคนเดียวไปซะล่ะ ฮ่ะๆ” ควอนฮยอนบินขำออกมาเสียงเบา
ก่อนจะจิบเครื่องดื่มในมือเล็กน้อย
“อ่อ..” ตอบเพียงแค่นั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อกับอีกฝ่ายดี
เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้คุยกับคุณควอนเสียเท่าไหร่
หมายถึงถ้าเป็นเรื่องทั่วๆไปน่ะนะ ส่วนใหญ่ถ้าคุยกันก็คุยแต่เรื่องงานเท่านั้น
“แล้วปกติบอสมาบ่อยหรือเปล่าครับ”
“ไม่บ่อยครับ
ปกติก็วนเวียนอยู่แต่บริษัทกับบ้านนี่ล่ะ แต่วันนี้เครียดน่ะครับ สมองมันหนักไปหมด
เลยลองมาที่นี่ดู เผื่อจะดีขึ้น”
“แล้วเป็นไงครับ
ดีขึ้นไหม”
“ไม่เลยครับ
หนักกว่าเดิมอีก” จบประโยคของคนเป็นบอส ฮยอนบินก็อดไม่ได้เลยที่จะเผลอขำออกมา เดาไม่ผิดจริงๆด้วย
ว่าคิมยงกุกน่าจะไม่ชอบอะไรอย่างนี้
“งั้นดื่มด้วยกันอีกสักหน่อยไหมครับ
ดื่มอย่างเดียวน่ะ มันไม่ช่วยหรอกครับ
มันต้องมีคนคอยฟังสิ่งที่เราต้องการระบายด้วยสิ”
“อ่า
ไม่ดีกว่าครับ ผมเอารถมาเองน่ะ ตอนนี้เริ่มมึนแล้วด้วย เดี๋ยวขับกลับไม่ไหว”
“เอาเถอะครับ
เดี๋ยวผมไปส่งเอง รับรองว่าปลอดภัย ผมน่ะคอแข็งมากเลยนะครับ
ถ้าเอาเหล็กมาฟาดที่คอผมเนี่ย บอกเลยว่าหัก”
“หมายถึงเหล็กหักใช่ไหมครับ”
“คอหักครับ” เสียงหัวเราะจากคิมยงกุกดังขึ้นแทบจะทันทีหลังจากฮยอนบินพูดจบ
เขามองภาพตรงหน้าก็เผลออมยิ้มตาม ก่อนจะมีเสียงนึงที่ดังเข้ามาในหัว
ตอนบอสยิ้มเนี่ย
“โคตรจะน่ารักเลยครับ..”
“ครับ?” คิมยงกุกหน้าเหวอทันทีหลังจากได้ยินประโยคนั้น
“เอ่อ..
เปล่านี่ครับ”
“อ่า..
สงสัยผมคงมึนๆจนฟังผิดน่ะครับ ขอโทษที”
คิมยงกุกตอบก่อนจะกลับมาหน้านิ่งเสียงเรียบเหมือนเดิม
ดั่งกับว่าคิมยงกุกที่ยิ้มทีแล้วโคตรจะน่ารักคนนั้นไม่มีอยู่จริง
“สรุปดื่มด้วยกันนะครับ
ผมเลี้ยง”
“เฮ้ย
ไม่ได้สิครับ ผมเป็นหัวหน้า ให้ผมเลี้ยงดีกว่า” คิมยงกุกเถียงแบบไม่มีโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดต่อ
เพราะพอพูดจบ เขาก็รีบหันไปหาพนักงานและสั่งอะไรเองจนเสร็จสรรพดั่งกับว่าตัวเองต้องการจะเป็นคนจ่ายเงินจริงๆ
“ถือว่าขอบคุณที่ทำงานหนักละกันนะครับ”
“อ่า
ขอบคุณนะครับบอส งั้นครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้ดื่มด้วยกันอีก ให้ผมเลี้ยงละกันนะครับ”
“ครับ
เอาแบบนั้นก็ได้”
บทสนทนาระหว่างพวกเราเงียบไปสักพัก
จนกระทั่งได้สิ่งที่สั่งมา
แก้วว่างเปล่าของคิมยงกุกถูกเติมเต็มด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อีกครั้ง ก่อนที่เจ้าของแก้วจะยกมันขึ้นดื่ม
“ไม่ชอบดื่มเหล้าเหรอครับ” ควอนฮยอนบินที่สังเกตเห็นใบหน้าเหยเกของหัวหน้าตัวเองถามขึ้น
“อ่า ก็ไม่ถึงกับไม่ชอบ
แต่อย่างที่บอกนั่นล่ะครับ
ไม่ค่อยได้กินบ่อยน่ะก็เลยไม่ค่อยชินกับรสชาติมันเท่าไหร่”
“อ่อ..
งั้นก็คงเมาง่ายสินะครับ”
“ก็ไม่ได้ง่าย
แต่ก็คงไม่ได้คอแข็งระดับฟาดเหล็กแล้วคอหักแบบคุณน่ะ ฮ่ะๆ”
“อย่าล้อมุกกันสิครับ
แค่ไม่อยากเห็นหัวหน้าทำเครียดนี่หน่า” ฮยอนบินพูดจบแล้วก็ขำเล็กน้อย
“ครับ
ไม่ล้อแล้ว ขอบคุณที่ทำให้ผมยิ้มออกละกันนะครับ”
น่ารักเป็นบ้าเลยแฮะ
ทำงานมาด้วยเป็นสามปี ไม่เห็นจะน่ารักขนาดนี้เลยนี่..
“ทำไมถึงมองหน้าผมอย่างนั้นล่ะครับ
ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า” คนเป็นบอสพูดด้วยแววตาสงสัย
อาจจะเพราะดื่มเหล้ามากไปหน่อย
หรือไม่ก็ความน่ารักของคุณบอสเยอะมากเกินไปสำหรับหัวใจของเขา
จึงเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันคิด
“บอสน่ารักน่ะครับ”
“ห้ะ
อะไรนะครับ?”
“ตามนั้นแหละครับ
ไม่พูดซ้ำ ชนกันหน่อยไหมดีไหมครับ” จบประโยคนั้นของฮยอนบิน
คิมยงกุกก็ทำได้แค่เพียงเออออกับอีกฝ่ายไปโดยการยกแก้วขึ้นไปชนตามที่อีกฝ่ายเชิญชวน
ก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม
โอเค
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั่นแหละหน่าคิมยงกุก.. อาจจะแค่ฟังผิด
“เอ่อ.. เออ!
แล้วที่ทำงานตอนนี้มีปัญหาอะไรไหมครับ”
“ไม่มีครับบอส”
“โอเค
ดีแล้วครับ ถ้ามีปัญหาอะไรบอกผมได้เลยนะครับ”
“ครับผม..
ขอบคุณนะครับ”
“ครับ ยินดี”
จบประโยคนั้น
พวกเราก็เงียบกันไปอีกสักพักใหญ่
ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเองและแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ตรงหน้า
ไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่นาทีแล้วกับการที่ฮยอนบินมัวแต่ดื่มเครื่องดื่มข้างหน้าจนหมดแก้วและเติมมันอีกเป็นแก้วที่
2 แก้วที่ 3 และแก้วที่ 4
รู้ตัวอีกที
คนที่อยู่ข้างกายก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะเสียแล้ว
“บอส.. บอสครับ”
พูดพลางสะกิดไหล่ของอีกฝ่ายไปด้วย
“อือ..”
“ไหวไหมครับ”
“อือ ไหว..สิ
แต่ปวดหัวจังแฮะ” คนที่เคยดูน่านับถือและน่าเกรงขามในเวลาทำงานที่บริษัท ณ
เวลาตอนนี้ก็กลายเป็นเหมือนลูกแมวไปเสียแล้ว
เสียงอ่อนๆที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากคิมยงกุก
วันนี้เขาก็ได้ยินไปแล้วเรียบร้อย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่าทางแบบนั้นกำลังทำเอาควอนฮยอนบินสติกระเจิง
“งั้นกลับกันเลยไหมครับ”
“อืออ กลับ..
กลับกันนะ ปวดหัว..มากเลย”
“ครับ กลับครับกลับ
ไหน ลุกไหวไหม”
“...” ใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หันมามองเขาด้วยสายตางัวเงีย
คงเป็นคำตอบทั้งหมดแล้วว่าอีกฝ่ายลุกเองไม่ไหว
ฮยอนบินจัดการเช็คบิลค่าแอลกอฮอล์ทั้งหมดก่อนจะเอื้อมไปจับตัวของคนเป็นหัวหน้าไว้และพาอีกฝ่ายลุกขึ้น
ในหัวก็เอาแต่พลางคิดว่าแล้วจะพาบอสไปส่งที่ไหนดีในเมื่อเขาไม่รู้ว่าบ้านของอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน
หรือจะให้พากลับไปส่งที่บริษัทก็ดูจะใจร้ายกับคนเมาไปเสียหน่อย
ดูท่าทีแล้ว
คงจะต้องพาไปนอนที่คอนโดของเขาเสียก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่
อย่างนั้นละกันนะ
“บอสครับ
คืนนี้ไปนอนที่คอนโดผมก่อนนะครับ”
“อืออ นอน
นอนคอนโดฮยอนบินคับ” ท่าทางเด็กๆของอีกฝ่ายที่เผลอแสดงออกออกมา
พร้อมกับคำพูดที่ใช้เรียกเขา ‘ฮยอนบิน’ ทั้งๆที่ปกติคุณบอสคนเก่งจะเรียกเขาว่า
‘คุณควอน’ ตลอด อดไม่ได้เลยที่จะบอกว่า..
เหมือนหัวใจจะทะลุออกมาเลยครับ
“ครับ บอส
ก้าวขึ้นรถก่อนนะครับ อ่า.. เก่งมาก” ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต่างอะไรกับคุณพ่อลูกหนึ่งเสียเท่าไหร่
เพราะตอนนี้บอสของเขาดูเหมือนจะกลายเป็นเด็กน้อยอายุ 5 ขวบไปเสียแล้ว
พอพาคิมยงกุกขึ้นรถได้แล้ว
ฮยอนบินก็เดินอ้อมไปที่ประตูรถด้านคนขับ ก่อนจะขึ้นไปนั่งและสตาร์ทรถเพื่อให้เครื่องยนต์เริ่มทำงาน
“บอสครับ
คาดเข็มขัดเร็ว อันตรายนะครับ” หันไปพูดกับคนที่นั่งงัวเงียๆคล้ายจะหลับเต็มทน
ควอนฮยอนบินเห็นท่าทางแบบนั้นก็อดไม่ได้เลยที่จะเอื้อมตัวไปคาดเข็มขัดให้คนเป็นเจ้านาย
เพราะดูแล้ว ถ้าให้อีกฝ่ายคาดเอง วันนี้คงจะไม่ได้ออกรถ
แต่ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิด
เพราะว่าทันทีที่เขาโน้มตัวไปหาคิมยงกุกเพื่อจะคาดเข็มขัดให้อีกฝ่าย
ร่างโปร่งก็หันมาทางเขาอย่างพอดิบพอดี
จนกลายเป็น.. ปากเราชนกัน
เหมือนโลกทั้งโลกหยุดหมุน ไม่รู้ว่าเขาสองคนทำท่านั้นค้างไว้อยู่นานเท่าไหร่
แต่รู้แค่ว่า ฮยอนบินหัวใจแทบจะระเบิดออกมาเสียแล้ว
โคตรนิ่มเลย..
มีความคิดลึกๆที่อยากจะลองชิมความหวานจากปากของหัวหน้าดูสักนิด
แต่เหมือนความผิดชอบชั่วดีจะทำให้ฮยอนบินคิดได้
เขารีบผละอีกฝ่ายออกไปด้วยใบหน้าตื่น พลางภาวนาขอให้หัวใจของตัวเองเต้นช้าลงกว่านี้อีกสักนิด
บ้าเอ้ย แค่จูบแค่นี้..
ทำเขาใจสั่นได้ขนาดนี้เชียวเหรอวะ
“อือ..”
หัวหน้ามองเขาด้วยใบหน้างัวเงีย
แต่ไม่รู้ทำไมพอฮยอนบินเห็นภาพแบบนั้นกลับทำให้ใจสั่นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เซ็กซี่เป็นบ้า
“เอ่อ..”
“เยลลี่..” คิมยงกุกพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของรถ
“..ครับ?”
“เมื่อกี้..
เยลลี่ นิ่มจัง อือ”
เรียบร้อย ฮยอนบินสติหลุดกระเจิงไปแล้ว
“เอ่อ.. บอส
คือเมื่อกี้..”
“อืออ เยลลี่
อยากกินเยลลี่”
“….”
“นะค้าบ
อยากกินเยล...” ความอดทนของฮยอนบินขาดทันทีแม้อีกฝ่ายจะยังพูดไม่จบ
ริมฝีปากถูกบดเบียดเข้าหากันอย่างหลงใหล ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปาก
ควานหาความหวานไปทั่ว
แต่ทว่ารสชาติที่ได้กลับคืนมามีเพียงแค่รสชาติและกลิ่นของแอลกอฮอล์เพียงเท่านั้น
แต่อดไม่ได้เลยที่ฮยอนบินจะเผลอพูดกับตัวเองในใจว่า
นี่เป็นจูบที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลย ให้ตาย
“อือ..” ทางฝ่ายคนเมา ในช่วงแรกก็ทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆ
จนเหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มชิน ริมฝีปากถึงเริ่มบดเบียดและจูบตอบ
ถึงแม้มันจะดูไม่ได้ชำนาญนัก แต่แม่ง.. โคตรดีเลย
ฮยอนบินใจเต้นระรัวไปหมด ไม่รู้ว่ามือของเขาเผลอไปปลดกระดุมเสื้อของอีกคนตอนไหน
และก็ไม่รู้เช่นกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คิมยงกุกส่งมือมายีผมของเขาจนมันยุ่งไปหมด
แล้วก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความรู้สึกอยากมันเริ่มแล่นเข้าสู้ร่างกายของเขาเช่นนี้
ไม่ไหวแล้ว.. ร่างกายของคิมยงกุกทำไมถึงเข้ากับเขาได้ดีถึงขนาดนี้
ฮยอนบินผละออกจากปากอีกฝ่าย
สายตาละห้อยที่ถูกส่งมาจากคนเป็นบอสทำเอาฮยอนบินแทบอยากจะทำต่อในรถตอนนี้เลย
“รอแปปนึงนะครับคนดี”
“อืออ
ฮยอนบิน..” คิมยงกุกโน้มตัวมาหาเขาอีกรอบ ใช้จมูกนิ่มนั่นคลอเคลียที่แก้มของเขาก่อนจะจูบมาที่ปากอีกหน
“บอส..ครับ”
แพ้ ฮยอนบินโคตรแพ้คิมยงกุกเลย การจูบของพวกเรามันเริ่มอีกหน
ความอดทนสุดท้ายใกล้หมดอีกรอบ แต่ทว่าคิมยงกุกกลับผละออกเสียก่อน ซึ่งนั่นก็ดี
เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะทำในรถเสียเท่าไหร่
“ชอบ..จัง”
“จะทำให้ชอบยิ่งกว่านี้อีกครับ
:)” ฮยอนบินพูดจบก็เหยียบคันเร่ง
ไม่รู้ว่าเขาขับรถเร็วขนาดนี้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ หรือว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรก
แต่ให้ตาย ดูเหมือนว่าบอสของเขาจะซนเสียเหลือเกิน
มือที่เอื้อมมาจับแก้มของเขาเอาไว้แบบนั้น ทำเอาฮยอนบินอยากจะหันไปจูบคิมยงกุกอีกรอบเสียจริงๆ
ไม่รู้ว่าใช้เวลามานานเท่าไหร่ที่กว่าจะขับถึงคอนโด
แต่ที่แน่ๆคือความอดทนของเขาใกล้ขาดเต็มทน
ฮยอนบินจอดรถก่อนจะพาคิมยงกุกและตัวเขาเองลงรถ
หัวใจที่เต้นตูมตามไปหมดทำให้เขาใกล้จะเป็นบ้าไม่ช้าก็เร็ว
เพียงแค่เอื้อมไปจับเอวของอีกฝ่ายไว้ก็สติแตกกระเจิงไปหมด ไม่รู้ว่าตัวของหัวหน้าของเขาจะบางเสียขนาดนี้
ให้ตาย
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิด
ฮยอนบินก็หันไปนัวเนียกับแก้มนุ่มๆของอีกคน เนื้อตัวของคิมยงกุกน่าหลงใหลไปหมด น่าหลงใหลเสียจนฮยอนบินเผลอคิดขึ้นมาว่าทำงานมาด้วยกันตั้งสามปี
ทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นด้านนี้ของคิมยงกุกเลยนะ เขามองข้ามผู้ชายคนนี้ไปได้ยังไงกัน
ฮยอนบินใช้คีย์การ์ดแตะไปที่เครื่องทาบบัตร
พลางคลอเคลียกับคอขาวนั่นไปด้วย
ถ้ามีคนมาเห็นเข้าฮยอนบินคงจะโดนแจ้งตำรวจให้มาจับเสียจริงๆ
ทันทีที่ประตูถูกปลดล็อค เขาก็เปิดเข้าไปข้างในก่อนจะปิดล็อคมันเอาไว้อย่างดี
พร้อมๆกับริมฝีปากของเราที่ดึงดูดเข้าหากันอีกหน
รสจูบอันร้อนแรงเนื่องจากอารมณ์ที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะรุนแรงกว่าในรถมาก
ตัวของยงกุกแนบติดกับกำแพง พร้อมมีร่างสูงที่ชิดเข้ามาอีกที
คนเป็นหัวหน้าเข่าอ่อนไปหมดกับการกระทำแบบนั้นของฮยอนบิน
อาการเมาเริ่มสร่างไปหมดจนแทบไม่เหลือ ใบหน้าและร่างกายร้อนไปหมด
ฮยอนบินอุ้มเขาขึ้นทั้งที่ปากของเรายังไม่ถอนออกจากกัน
คิมยงกุกถูกวางลงที่เตียงอย่างนุ่มนวลก่อนที่จะฮยอนบินจะผละออกหันมาเล่นกับคอขาวแทน
“ฮะ..ฮยอนบิน
ไม่.. ไม่ไหว”
“ผมก็..ไม่ไหวแล้วครับหัวหน้า”
ฮยอนบินถอดเสื้อของยงกุกออก เผยให้เห็นผิวขาวอันน่าหลงใหลนั่น
ฮยอนบินลูบไปที่เอวบางของอีกฝ่ายก่อนบีบคลึงมันเบาๆ
“อืออ..”
ชิบหาย เสียงครางโคตรหวาน
“ทำไมบอสดีขนาดนี้วะ..”
“อือ จูบ..
จูบอีกได้ไหม”
ประโยคคำถามเชิงเชิญชวนอย่างนั้น
ทำเอาฮยอนบินสติกระเจิงอีกรอบ ริมฝีปากถูกดูดดุนเข้าหากันพร้อมกับมือที่บีบเอวบางนั่นไปด้วย
ฮยอนบินผละคนเป็นหัวหน้าออกก่อนจะจัดการเปลื้องเสื้อผ้าของตนและอีกฝ่ายออกจนหมด
คิมยงกุกหน้าแดงแทบจะทันทีที่เห็นการกระทำของฮยอนบิน
อดไม่ได้เลยที่เขาจะเผลอขำและอมยิ้มออกมาเพราะอีกฝ่ายน่ารักเป็นบ้า
“บอสครับ”
“อือ อะ..อะไร”
“ขอได้ไหม”
“…”
“ขอทำได้ไหมครับ” ถามพลางส่งมือของตัวเองไปรูดรั้งแก่นกายของคนข้างล่างจังหวะเนิบนาบ
ทำเอาคิมยงกุกสะดุ้งตัวโยน
“อ๊ะ.. อืออ”
“ได้ไหมครับ”
ดูเหมือนการปรนเปรอที่ฮยอนบินทำให้นั้นจะส่งผลให้คิมยงกุกสติแตกกระเจิง เขาพยักหน้าขึ้นลงอย่างคนไร้สติ
ซึ่งดูเหมือนว่าคำตอบจะทำเอาฮยอนบินพอใจไม่ใช่น้อย
“อ๊ะ ฮยอนบิน
เร็ว..เร็วหน่อยได้ไหม อืออ” คิมยงกุกพูดเชิงขอร้อง
ผ้าปูที่นอนสีขาวยับยู่ยี่ไปหมดเนื่องจากถูกคิมยงกุกกำเอาไว้เพื่อระบายอารมณ์
“ตามคำสั่งเลยครับหัวหน้า
: )“
จบประโยค ฮยอนบินก็เริ่มเพิ่มจังหวะในการรูดรั้งแก่นกายของคนใต้ร่างขึ้น
คิมยงกุกครางออกมาเสียงหวานจนฮยอนบินแทบหยุดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาได้เข้าไปในตัวของคิมยงกุกจริงๆแล้ว..
คุณหัวหน้าคนเก่งของเขาจะเสียงหวานขนาดไหนกันนะ
“อ่า ฮยอนบิน..” ร่างโปร่งหอบถี่ก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวเพื่อระบายความอึดอัดในร่างกาย
คิมยงกุกนอนราบลงกับเตียงอย่างหมดอะไรตายอยาก
“อย่าเพิ่งหมดแรงสิครับ
คราวนี้.. ตาผมแล้วนะ” นิ้วชี้ถูกส่งเข้าไปในช่องทางนั้นก่อนเป็นนิ้วแรก
การกระทำนั้นเรียกเสียงครางจากคิมยงกุกได้เป็นอย่างดี
“อ๊ะ.. ฮยอนบิน
เจ็บ..”
“อย่าบอกนะว่ายังไม่เคย..”
“ฮือ เจ็บ..
เอาออกไป”
“ใจเย็นๆนะครับคนดี”
นิ้วที่สองถูกส่งเข้าไป
ใบหน้านิ่วนั่นทำเอาฮยอนบินแทบจะรู้สึกเจ็บแทนเสียอย่างนั้น
ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะหยุด.. แต่มันหยุดไม่ได้แล้ว
“ฮยอนบิน
มัน..เจ็บ อ๊ะ”
ฮยอนบินแช่นิ้วของตัวเองค้างไว้อย่างนั้นจนกระทั่งสีหน้าของคนเป็นหัวหน้าเริ่มดีขึ้น
เขาจึงสอดนิ้วออก เอื้อมไปเปิดลิ้นชัก
หยิบถุงยางขึ้นมาก่อนจะจัดการแกะซองและสวมมันเข้าไปที่แก่นกายของตน รูดรั้งสองสามหนและจ่อไปที่ช่องทางร้อนของอีกฝ่าย
“ถ้าเจ็บ..
จิกหลังผมได้เลยนะครับ”
“อ๊า! ไม่.. ไม่เอา
เจ็บ” ทันทีที่แก่นกายถูกสอดเข้าไปในช่องทางนั้น
คิมยงกุกก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังจนดูน่าสงสาร
แต่ฮยอนบินทำอะไรไม่ได้นอกจากค่อยๆดันมันเข้าไปให้ช้าที่สุด
ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวของเขาอึดอัดและถูกครอบงำด้วยอารมณ์ไปหมด
“อดทนหน่อยนะครับคนดี”
“ฮึก ไม่..
ฮยอนบิน เราเจ็บ” สรรพนามที่คิมยงกุกไม่เคยใช้กับเขาถูกพูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกจากตาคู่สวย
ฮยอนบินสติแตกกระเจิงไปหมดก่อนจะก้มลงไปจูบและซับน้ำตาของอีกฝ่าย เพื่อให้ยงกุกผ่อนคลายขึ้น
“ใจเย็นนะครับ..
จะไม่ทำให้เจ็บแล้ว” ฮยอนบินดันเข้าไปจนสุดและแช่ค้างเอาไว้อย่างนั้นเพื่อให้ร่างกายของคิมยงกุกปรับสภาพให้ชินเสียก่อน
ก่อนจะเริ่มขยับมันจังหวะเนิบนาบ
“อ๊ะ
ฮะ..ฮยอนบิน” เล็บที่จิกมาที่หลังจนเลือดซิบไม่ได้ทำให้ฮยอนบินรู้สึกเจ็บเลย
ความรู้สึกที่แล่นเข้ามาตอนนี้มีแต่คำว่า
โคตรดีเลย
“อื้มม
ดีครับ.. เก่งมากคนดี” พูดขึ้นพลางเริ่มขยับจังหวะให้เร็วขึ้น
“อือ ฮยอนบิน
ไม่..ไม่ไหวแล้ว เสียว”
เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเราทั้งสอง
ลมหายใจเริ่มหอบถี่ขึ้นเรื่อยๆ ให้ตาย.. โคตรดี ดีจริงๆ
“อ๊า!!” เสียงหวีดครางดังลั่นทันทีที่ฮยอนบินกระแทกตัวเองเข้าไปจนสุด
ทำเอาร่างของคนข้างใต้สั่นไปหมด
คิมยงกุกจิกเล็บมาที่หลังของเขาเต็มแรงเพื่อระบายอารมณ์
ฮยอนบินกระแทกจุดนั้นของคิมยงกุกไปซ้ำๆ
ผลที่ได้รับคือคุณบอสของเขาครางลั่นออกมาจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
แต่ก็.. หวานเป็นบ้าเลยครับ
“อ๊ะ”
“ดี.. ดีครับ”
“ฮือ เสียว
ฮยอนบิน”
จังหวะเริ่มเร็วและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ร่างกายของเราแนบชิดจนเป็นหนึ่งเดียว
เร่งเร้าจังหวะขึ้นเรื่อยๆเมื่อใกล้จะปลดปล่อย ก่อนที่น้ำสีขาวจะพุ่งออกและแก่นกายถูกถอนจากช่องทางร้อนนั่น
เป็นอีกหนที่คิมยงกุกนอนราบลงกับเตียงอย่างหมดอะไรตายอยากเพราะความเหนื่อยหน่าย
แต่ทว่าควอนฮยอนบินกลับนั่งมองมาที่เขาก่อนจะเผลออมยิ้มขึ้น
ทำเอาคิมยงกุกที่เห็นภาพนั้นอดไม่ได้เลยที่จะเผลอถามออกไปเสียงสั่น
“อะ..อะไร”
ฮยอนบินโน้มหน้าลงมาหาเขา
“ออนท็อปให้หน่อยได้ไหมครับหัวหน้า..”
ก่อนจะจูบมาที่ปากของเขาอีกรอบ
และบทรักที่เริ่มต้นใหม่อีกหน
end.
.
.
.
ถ้าถามว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ก็จะบอกเลยว่าได้มาจากเพลง Love U ที่เป็นสเตจคู่ของบินกุกค่ะ ฮือ ยังเขินไม่หาย
มาคุยกันที่แอคทวิต @_Mqeapup หรือสกรีมแท็คในทวิตที่ #Mqeapup ได้เลยน้า ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
Casino Site - Up to $2000 Bonus + 100 Free Spins on Slots
ตอบลบFind a Casino Site that offers a no deposit bonus, free spins and VIP febcasino offers. Visit our no 카지노사이트 deposit bonus 메리트 카지노 주소 page and play your favorite games on our